134943 จำนวนผู้เข้าชม |
เปิดร้านกาแฟต้องใช้เงินเท่าไหร่?
ถึงแม้ว่าร้านกาแฟจะขึ้นชื่อว่า เป็นธุรกิจที่มีความเสี่ยงลำดับต้นๆ แต่ก็ยังเป็นที่น่าสนใจ และเป็นธุรกิจในฝันของหลายๆคนอยู่เสมอๆ ซึ่งการเตรียมงบประมาณในการเปิดร้านให้รอบคอบนั้น นับเป็นอีกหนึ่งหัวใจสำคัญในการทำธุรกิจ มาดูกันว่า การเปิดร้านกาแฟต้องแบ่งงบประมาณไว้ส่วนไหนบ้าง และต้องเตรียมไว้ประมาณเท่าไหร่
เงินลงทุนทั้งหมด = ค่าใช้จ่ายในการเปิดร้าน + เงินทุนหมุนเวียน 3-6 เดือน + เงินฉุกเฉิน
ค่าใช้จ่ายในการเปิดร้าน = ค่าก่อสร้าง/ตกแต่งร้าน/ค่าทำสัญญาพื้นที่+ค่าอุปกรณ์เครื่องใช้+ค่าอุปกรณ์การชง+ค่าภาชนะต่างๆ+ค่าวัตถุดิบเข้าร้านครั้งแรก
ค่าก่อสร้าง/ตกแต่งร้านนั้น ประกอบด้วย ค่าออกแบบ,ค่าก่อสร้างโครงสร้างร้าน,ค่าตกแต่งภายใน,ค่าเดินระบบน้ำ-ไฟ,ของตกแต่งต่างๆ หรือเข้าใจง่ายๆว่า เป็นค่าทำร้านทั้งหมดให้เป็นร้านตามแบบนั้นเอง ซึ่งค่าใช้จ่ายส่วนนี้มักจะมีผลต่อเงินลงทุนมากที่สุด ในปัจจุบันการตกแต่งร้านมีหลากหลายสไตล์แตกต่างกันไป งบประมาณในการตกแต่ง ร้านจึงจะอยู่ประมาณ 8,000-15,000 บาท ต่อ ตารางเมตร ขึ้นอยู่กับแบบร้าน
ค่าอุปกรณ์เครื่องใช้ ประกอบด้วย ค่าเครื่องปรับอากาศ,เครื่องเสียง,เครื่องคิดเงิน,เครื่องกรองน้ำ,ตู้เย็น,ตู้แช่เค้ก,อุปกรณ์การทำเมนูอื่นๆ ฯ
ค่าอุปกรณ์การชง ประกอบด้วย ค่าเครื่องชงกาแฟ,เครื่องบดกาแฟ,เครื่องปั่น,อุปกรณ์ชงเบ็ดเตล็ด ซึ่งการเลือกใช้เครื่องชงกาแฟในปัจจุบันนั้น ควรพิจารณาไปตามรูปแบบร้าน อาทิเช่น
ร้านขนาดเล็ก-กลาง / รูปแบบเคาน์เตอร์กาแฟ งบประมาณสำหรับเครื่องขนาดเล็ก-กลาง ประมาณ 20,000-80,000 บาท
ร้านกาแฟแบบมีที่นั่ง ติดแอร์ งบประมาณสำหรับเครื่องขนาดกลาง-ใหญ่ ประมาณ 100,000-200,000 บาท
ร้านกาแฟแบบ Specialty งบประมาณสำหรับเครื่องชงกาแฟระดับ Hi-End ประมาณ 250,000-400,000 ขึ้นไป
ค่าวัตถุดิบเข้าร้านครั้งแรก ค่าเมล็ดกาแฟ,น้ำตาล,นมข้นหวาน,ไซรัป,แก้วกาแฟแบบ Take Away,วัสดุสิ้นเปลืองต่างๆ โดยควรคำนวนจากยอดประมาณการขายต่อวัน ให้ใช้ได้ 2-3 อาทิตย์
เงินทุนหมุนเวียน 3-6 เดือน = ค่าใช้จ่ายด้านพนักงาน+ค่าเช่าร้าน+ค่าสาธารณูปโภค+ค่าวัตถุดิบหมุนเวียน+ค่าทำการตลาด
การเตรียมเงินทุนหมุนเวียนนั้น เปรียบเสมือนการเตรียมแผนพยุงสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในช่วงแรกของการเปิดร้าน เนื่องจากการเปิดร้านกาแฟนั้น โดยทั่วไปจะต้องเปิดกิจการ 3 เดือนขึ้นไป จึงจะเริ่มมีรายได้จากลูกค้าประจำ และประเมินได้ว่าจะประสบความสำเร็จหรือไม่
ค่าใช้จ่ายด้านพนักงาน ประกอบด้วย เงินเดือนพนักงาน,ค่าสวัสดิการพนักงาน และเงินเดือนผู้จัดการร้าน โดยถ้าหากคุณเป็นคนรับหน้าที่เป็นผู้จัดการร้านเอง ก็ต้องมีเงินเดือนสำหรับคุณด้วย ถือเป็นหนึ่งในตัวเลขที่ต้องใช้คำนวนต้นทุนด้วยเช่นกัน
ค่าทำการตลาด การทำโฆษณาเพื่อสร้างยอดขาย และสร้างฐานลูกค้าประจำ โดยแบ่งเป็น งบประมาณการโฆษณา,งบประมาณสำหรับการจัดโปรโมชั่น ลด แลก แจก แถม
ค่าสาธารณูปโภค ประกอบด้วย ค่าน้ำ,ค่าไฟ,ค่าอินเตอร์เน็ต,ค่าโทรศัพท์
เงินฉุกเฉิน = เงินที่ต้องใช้เมื่อยามเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดการณ์ เช่น อุปกรณ์เกิดการพังเสียหาย,อุบัติภัยต่างๆ ซึ่งเงินในส่วนนี้ถือเป็นส่วนที่ควรมีสำรองไว้เป็นอย่างยิ่งไม่ว่าคุณจะทำธุรกิจใดๆก็ตาม โดยงบประมาณสำหรับส่วนสำรองนี้ อาจใช้วิธีการคำนวนโดยประมาณ 20-30% จากเงินการลงทุนค่าอุปกรณ์ทั้งหมด