ผงชาเขียวมัทฉะ Kyoto Matcha

Kyoto Matcha

มัทฉะเกียวโต (Kyoto Matcha) ถือเป็นสุดยอดของมัทฉะและมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก โดยเฉพาะมัทฉะที่มาจากย่าน อุจิ (Uji) ซึ่งอยู่ใกล้กับเกียวโต ได้รับการยกย่องว่าเป็นแหล่งผลิตชาเขียวคุณภาพสูงสุดของญี่ปุ่นมานานกว่า 800 ปี

คุณสมบัติเด่นของมัทฉะเกียวโต
1. รสชาติ (Taste)
รสชาติอูมามิ (Umami): เป็นลักษณะเด่นที่สุด มีรสหวานลึก (Sweetness) และรสอูมามิที่เข้มข้น กลมกล่อม ขมปานกลาง
ความซับซ้อน (Complexity): มีมิติของรสชาติที่หลากหลายและยาวนานในปาก (Lingering Finish)
2. สี (Color)
สีเขียวเข้ม (Extra Green): มีสีเขียวมรกตที่สดใสและเข้มกว่ามัทฉะจากแหล่งอื่นมาก ซึ่งบ่งบอกถึงคุณภาพและการผลิตที่พิถีพิถัน (เช่น การบดด้วยโม่หิน)
3. เนื้อสัมผัส (Texture)
ละเอียดนุ่ม (Fine & Smooth): ผงมัทฉะที่ได้จะมีความละเอียดมาก คล้ายแป้งฝุ่น ทำให้เมื่อนำไปชงแล้วได้เนื้อสัมผัสที่เนียนนุ่มและเป็นฟองได้ดี (Frothy)
4. กลิ่น (Aroma)
กลิ่นหอมหญ้าทะเล/สาหร่าย (Marine/Seaweed Notes): มีกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์คล้ายพืชทะเลอ่อน ๆ

ขนาดบรรจุ 100 กรัม/ถุง

วิธีใช้ / การเก็บรักษา
ควรเก็บในที่ทึบแสงและไม่โดนอากาศ

วิธีชงมัทฉะให้ได้รสชาติที่ดีที่สุด
การชงมัทฉะแบบดั้งเดิมจะช่วยให้ได้ฟองละเอียดและรสชาติที่เข้มข้น:
ปริมาณมัทฉะ: ใช้ผงมัทฉะแท้ 1-2 กรัม (ประมาณ 1 ช้อนชา).
อุณหภูมิน้ำ: เติมน้ำร้อนที่อุณหภูมิประมาณ 70-80องศา ปริมาณ 60-80 มล.
ขั้นตอนการตี: ใช้ ไม้ตีชา (Chasen) ตีอย่างรวดเร็วเป็นรูปตัว M หรือ W จนกระทั่งเกิดฟองละเอียดและเนื้อเนียน.
การดื่ม: ควรดื่มทันทีหลังชงเสร็จ เพื่อให้ได้รสชาติและกลิ่นหอมที่ดีที่สุด.

ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการดื่มมัทฉะ
คุณสามารถเลือกดื่มมัทฉะตามช่วงเวลาที่ต้องการผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน:
ตอนเช้า: เหมาะสำหรับกระตุ้นร่างกายและสมอง ให้ความสดชื่นและตื่นตัวแทนกาแฟ.
ก่อนทำงาน/อ่านหนังสือ: ช่วยเพิ่มสมาธิและความจดจ่อในการทำงานหรือการเรียน.
ช่วงบ่าย: ช่วยลดอาการง่วงซึมและเติมพลังงานระหว่างวัน. (ข้อควรระวัง: ควรเว้นระยะก่อนเข้านอนอย่างน้อย 4 ชั่วโมง เพราะอาจรบกวนการนอนหลับได้)